Search

[Jenny937]

ผู้ที่เข้ามาหาคุณนั้น มีหลายแบบ พวกเราควรรู้จักแยกให้ออก

บ้างก็ข้อเท็จจริง บ้างก็แค่ละคร ให้ดูน่าสงส าร

บางครั้งคุณยื่นมือเข้าไปช่วย แทนที่จะได้รับสิ่งที่ดีคืนมา เปลี่ยนเป็นความซ ว ย

แต่ว่าคุณเชื่อเหอะ ถ้าเกิดเขาไม่ทราบพระคุณ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ไม่รุ่งเรืองหรอก

ชีวิตราวกับจะดีแต่ก็ไม่ ดี เสมือนจะราบรื่นแม้กระนั้นก็ไม่ราบรื่น


ล้ ม ลุกล้มลุกคลุกคลานอยู่ที่เดิม สุดท้ายก็พั ง หมดท่า

โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไร ทำสิ่งใด ไม่ต้องทวงบุญคุณ

เหมาะสมที่สุดเป็น เลิกคบ ออกไปให้ไกลจากชีวิตเขา

คนเราจะอยู่เพียงลำพังตามลำพั ง ไม่ได้ จำต้องพึ่งพาอาศัยกัน

อีกทั้งในด้านพลังกาย กำลังความนึกคิด แล้วก็อื่นๆ

ถ้าได้รับอุปถัมภ์ค้ำชูจากคนใดกันแน่ ก็เรียกผู้นั้นว่า ผู้มีบุญคุณหรือผู้มีบุญคุณ

ผู้ใดกันแน่ช่วยเหลือให้อุปถัมภ์แก่เรา ก็ไม่พึงจะลืมพระคุณของคนนั้น


ผู้ไม่ลืมเลือนอุปถัมภ์ค้ำชูที่ผู้อื่นมีแก่ตน ย่อมเป็นผู้เจริญด้วย ลาภตำแหน่งสรเสริญ ความเป็นมิตร


แต่ว่าผู้ใดกันแน่ไม่รู้บุญคุณของคนอื่น หรือดูถูกดูแคลนพระคุณของผู้มีอุปถัมภ์ค้ำชูของตนเอง

ผู้นั้นจะเป็นผู้ ต่ำ ต้ อ ย ทำความดีไม่ขึ้น เป็นคน อ า ภั พ

แม้ว่าจะพย าย ามขวนขวายยังไง ก็มักจะ ล้ ม เ ห ล ว หมดรูปเหมือนเดิม

การลบหลู่ดูหมิ่นบุญคุณของผู้มีบุญคุณณ เขาเรียกว่า การ เ น รคุณ

การ เ น ร คุณเป็นตัว ก า ล กิ ณี จะรอดึงให้คนเ น ร ลุกในต ก ต่ำ

ไม่มีโอกาส ที่จะแฮปปี้ได้ในชีวิตได้เลย

เพราะเหตุว่าไม่มีความกตัญญูรู้คุณ ปราศจากความเป็นผู้รู้คุณคน

ต้องคิดให้ได้เถอะ เมื่อคิดได้แล้ว เปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเอง ได้ชดเชยตามสมควรแล้ว

ชีวิตก็จะเบาๆดีขึ้นเรื่อยๆตามต้นสายปลายเหตุต่างๆที่ต้องเป็น

กตัญญูกตเวทีคนแล้วตอบแทน นี่แหละ สัญลักษณ์ของคนดี
เนรคุณ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13590/