• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

🎯การเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring) 📌และ🥇 การสำรวจดินในงานก่อสร้าง🥇

Started by Hanako5, July 25, 2024, 08:09:11 PM

Previous topic - Next topic

Hanako5

การสำรวจดิน 👉คือกรรมวิธีการเจาะลงไปในชั้นดิน, เก็บตัวอย่างดิน, ทดสอบคุณสมบัติดินในสนาม, หยั่งชั้นดินจากผิวดิน ⚡หรือใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งลักษณะชั้นดินทั้งทางแนวดิ่ง และการเปลี่ยนแปลงทางแนวราบ เพียงพอในการที่จะใช้ออกแบบ ⚡หรือศึกษาทางด้านปฐพีกลศาสตร์ การเจาะสำรวจดินต้องพิจารณาการใช้งาน เช่น การสร้างถนนหรือสนามบิน การสำรวจจะเป็นการเจาะตื้น แต่งานฐานรากเสาเข็มต้องเจาะลึกกว่าปลายเข็มที่ใช้ 👉สำหรับในบทนี้จะพูดถึงการเจาะสำรวจดินโดยวิธีเบื้องต้น โดยใช้ สว่านมือ (Hand Auger), การเจาะล้าง (Wash Boring) 🌏และการเก็บตัวอย่างดินโดยใช้กระบอกเปลือกบาง (Thin Walled Tube)🌏

🛒🛒🛒เหตุผลในการเจาะสำรวจดินก่อนก่อสร้าง👉👉👉

1. เพื่อให้รู้ประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง 🥇และรู้ลักษณะเชิงกลของดิน เราจะได้เลือกใช้ฐานรากได้ถูกประเภท 🌏เช่น หากดินแข็งพออาจจะเลือกใช้เป็นฐานแผ่แทน✨

2. การรู้ความลึกของชั้นดินแข็ง ✨ช่วยในการคำนวณกำลังรับน้ำหนักเสาเข็ม📢 และเลือกขนาดและความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม🌏

3. เพื่อลดความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม 📌เพราะหากเจอชั้นดินแข็ง แต่ไม่หนาที่ชั้นความลึกไม่มาก 🥇อาจทำให้คนตอกเสาเข็มหยุดตอก เพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็งแล้ว 🛒ทั้งที่จริง ๆ ยังสามารถตอกต่อไปได้ 🎯หากพื้นที่สำรวจมีความผันผวนของดินสูง วิศวกรควรสั่งเจาะสำรวจดินหลายหลุม เพื่อเปรียบเทียบ ✅เพราะอาจต้องออกแบบฐานรากหลายชนิด สำหรับก่อสร้างอาคารนั้น🛒



✨✨✨วิธีเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring)📌📌📌

การเจาะดิน✨คือการเจาะหลุมลงไปในดินเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของชั้นดิน📌และเก็บตัวอย่างดินมาทำการทดสอบคุณสมบัติในห้องปฏิบัติการ✅โดยทั่วไปการสำรวจชั้นดินที่ใช้มากในประเทศไทย 🛒ได้แก่

1. การใช้สว่านมือ (Hand Auger) 🛒เป็นการเจาะด้วยแรงคน โดยใช้สว่านมือและแท่งเจาะดังรูปด้านล่าง 📢โดยที่ก้านเจาะซึ่งยาวประมาณ 1 เมตร สามารถต่อให้ยาวหลาย ๆ ท่อนได้ เมื่อกดพร้อม ๆ กับหมุนก้านจนดินเข้ามาเต็มสว่านแล้วจึงดึงขึ้นเพื่อนำดินออก ⚡ดินส่วนนี้สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติทางวิศวกรรมบางประเภทได้ ✨การเจาะด้วยสว่านมืออาจทำได้ลึกถึง 6–10 เมตร ในดินเหนียวแข็งปานกลาง 📌ข้อเสียของการเจาะประเภทนี้คือไม่สามารถเก็บตัวอย่างดินเพื่อนำมาหาคุณสมบัติด้านความแข็งแรงหรือการทรุดตัวของดินได้เนื่องจากโครงสร้างดินถูกทำลายโดยสว่าน🦖

2. การฉีดล้างดิน 🦖คือการใช้การฉีดน้ำด้วยแรงดันสูงเพื่อให้เกิดหลุม และลดการรบกวนโครงสร้างดินด้านล่างให้น้อยที่สุด 🎯วิธีการเจาะเริ่มโดยการสูบน้ำผ่านก้านเจาะไปยังหัวฉีดที่ก้นหลุมพร้อมกับการกระแทกหรือหมุนของหัวเจาะ 📢ทำให้ดินก้นหลุมหลุดไหลตามน้ำขึ้นมาบนผิวดินลงในอ่างตกตะกอนแล้วสูบน้ำที่ใสนำไปใช้ได้อีก 📢ดังรูปด้านล่าง วิธีนี้ต้องอาศัยสามขา (Tripod) เครื่องกว้าน (Motor และ Catch head) 🥇และปั๊มน้ำ ในกรณีที่เจาะในชั้นของดินอ่อน จะต้องใช้ปลอกกันดินด้วย โดยต่อเป็นท่อน ๆ ✨และเมื่อเจาะถึงชั้นทรายจะไหลเข้ามาในหลุม จึงต้องผสมสารเบนโทไนต์ (Bentonite) กับน้ำ ✅เนื่องจากเบนโทไนต์คือแร่ชนิด Montmollionite มีความสามารถในการดูดน้ำดีและพองตัวได้มาก ✅ทำให้ความหนาแน่นของน้ำภายในหลุมมากกว่าน้ำในชั้นทราย🦖 น้ำจึงไม่ไหลเข้าในหลุม การเจาะแบบนี้สามารถหยุดเพื่อเก็บตัวอย่างดินได้ตามระยะที่กำหนด 🦖การเจาะสำรวจในกรุงเทพฯ เพื่อก่อสร้างอาคารจะเจาะสำรวจตั้งแต่ 30-80 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอาคาร🥇