Search

[Beer625]

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบประการหนึ่งของโรคเบาหวานคือการเกิด แผลเบาหวาน บาดแผลเหล่านี้สามารถหายได้ช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่มากขึ้นได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ในบทความนี้เราจะพูดถึงสาเหตุ อาการ การรักษา และการป้องกันแผลเบาหวาน
 
ประการแรก สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าแผลเบาหวานคืออะไร แผลเบาหวานเป็นแผลหรือแผลเปิดที่เกิดขึ้นบนผิวหนังอันเป็นผลมาจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงและการไหลเวียนไม่ดีในผู้ป่วยเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจทำลายเส้นประสาทและหลอดเลือด ส่งผลให้ความรู้สึกและการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่ได้รับผลกระทบลดลง ทำให้ร่างกายรักษาตัวเองได้ยาก ส่งผลให้เกิดบาดแผลที่รักษาไม่หายหรือใช้เวลานานในการรักษา
 
บริเวณที่เกิดแผลเบาหวานที่พบบ่อยที่สุดคือเท้า ขาท่อนล่าง และนิ้วเท้า เนื่องจากบริเวณเหล่านี้อยู่ห่างจากหัวใจมากที่สุดจึงทำให้เลือดไหลเวียนได้น้อยลง นอกจากนี้ ความเสียหายของเส้นประสาท ที่เท้าอาจทำให้เกิดอาการชา การไหลเวียนไม่ดียังหมายความว่าออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็นต่อการรักษาไม่สามารถไปถึงบริเวณแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
อาการของแผลเบาหวานอาจรวมถึงรอยแดง บวม มีน้ำไหลออกมา กลิ่นเหม็น และปวดหรือกดเจ็บบริเวณที่เป็น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและเหมาะสม แผลเหล่านี้อาจติดเชื้อและแพร่กระจายไปยังชั้นเนื้อเยื่อหรือกระดูกที่อยู่ลึกลงไปได้ การติดเชื้อที่รุนแรงอาจนำไปสู่การตัดแขนขาหรือเสียชีวิตได้ในกรณีที่รุนแรง
 
การรักษาบาดแผลจากโรคเบาหวานใช้วิธีการแบบสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งรวมถึงการรักษาอาการทางการแพทย์ที่สำคัญ เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและการไหลเวียนไม่ดี ขั้นตอนแรกคือการทำความสะอาดแผลให้สะอาดเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้วออก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการรักษาโดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดสำหรับการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อใหม่
 
ถัดไป แพทย์อาจแนะนำ เป็นขั้นตอนที่จะนำเนื้อเยื่อที่ตายหรือติดเชื้อออกเพื่อช่วยให้การรักษาดีขึ้น ในบางกรณีอาจต้องให้ยาปฏิชีวนะหากแผลติดเชื้อ สำหรับบาดแผลขนาดใหญ่หรือลึก แพทย์อาจใช้เทคนิคการดูแลบาดแผลขั้นสูง เช่น การบำบัดด้วยแรงดันลบ หรือการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันบรรยากาศสูง เพื่อส่งเสริมการรักษา
 
การดูแลบาดแผลอย่างเหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแผลเบาหวาน รวมถึงการรักษาแผลให้สะอาดและแห้ง เปลี่ยนผ้าปิดแผลเป็นประจำ และป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บเพิ่มเติม ผู้ป่วยควรติดตามระดับน้ำตาลในเลือดอย่างใกล้ชิดและรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพถูกโภชนาการตามแพทย์แนะนำ เพื่อส่งเสริมการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนเพิ่มเติม
 
การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอเมื่อพูดถึงบาดแผลจากโรคเบาหวาน ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรดูแลเท้าของตนเองให้ดีด้วยการสวมรองเท้าที่กระชับและหลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า ควรตรวจสอบเท้าทุกวันเพื่อดูบาดแผล แผลพุพอง หรือการบาดเจ็บอื่นๆ หากสังเกตเห็นความผิดปกติควรไปพบแพทย์ทันที
 
ผู้ป่วยโรคเบาหวานยังเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยใช้ยา การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายร่วมกัน การตรวจสุขภาพเป็นประจำกับแพทย์สามารถช่วยระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะร้ายแรง เช่น แผลเบาหวาน  การพบแพทย์และการรักษาทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ
 
 
-----
 
อาหารเสริม BLP Balance P ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 
น้ำมันถั่วดาวอินคา, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันงาดำ, น้ำมันมะกอก, น้ำมันกระเทียม, น้ำมันงาขี้ม่อน, ผงโคเอนไซม์ คิวเท็น
รายละเอียดเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Balance P
 
BLP DIETARY SUPPLEMENT
เลขที่อย. 13-1-07458-5-0267
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บีแอลพี
BLP Balance P
1กระปุก (30แคปซูล)
ปกติ 1,290 บาท ราคาพิเศษ 990 บาท
*โปรโมชั่นพิเศษ 2 กระปุก แถม 1 กระปุก เพียง 1,800 บาท
*ส่งฟรีมีบริการเก็บเงินปลายทาง
**สอบถามปรึกษาก่อนสั่งซื้อเพื่อแนะนำ LINE: @balances