Search

[deam205]

ชีวิตบุคลากรสำนักงาน ส่งผลต่อตับ เป็นปริศนาที่ดูเหมือนจะตอบยากเพราะว่าถ้า ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกโดยทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่บาดเจ็บเมื่อไรก็ส่งสัญญาณเตือนทันที แต่สำหรับตับแล้วแม้ได้รับการทำร้ายร่างกายตับก็จะสามารถปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมตัวเองแต่ก็บางทีอาจจะไม่โชคดีเสมอไปพร้อมหากตับได้รับการทำลายอย่างหนักและตลอดก็ทำให้ตับแข็งหรือเป็น มะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตพนักงานสำนักงาน 24 ชั่วโมงอย่างพวกเราๆนั้นสร้างภาระหน้าที่ให้ตับได้มากแค่ไหนมาดูกัน

อาหารมื้อเช้า มีผลต่อตับ 

มื้อเช้าตรู่ที่รีบเร่งของวัยรุ่นสำนักงานส่วนใหญ่กับการดื่มกาแฟเพียง 1 แก้วหรือจนถึงไม่ได้รับประทานอะไรเลยทำให้ร่างกายมิได้รับสารอาหารที่จำเป็นจะต้อง ซึ่งถ้านับเวลาย้อนไปมื้อปัจจุบันที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 12 ชั่วโมง หมายความว่าตับผู้ที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานและสารอาหารไปยังส่วนต่างๆภายในร่างกายนั้นจำเป็นจะต้องดึงไกลวัวเจนที่เก็บสะสมไว้มากลายเป็นพลังงานในตอนเช้าและร่างกายยังต้องชดเชยคาร์โบไฮเดรตที่ใช้เพื่อสำหรับการกลายเป็นพลังอย่างเร็วก็เลยต้องกินในมื้อต่อไปมากยิ่งขึ้นอีกด้วยซ้ำซึ่งกลายเป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้ตับสำหรับการทำงานมากขึ้น

มลพิษ พิษ มีผลต่อตับ

ช่วงเช้ายังจำต้องพบเจอมลพิษบนถนนในทุกๆวันด้วยชีวิตที่รีบร้อนของคนกรุงในปัจจุบันที่จำเป็นต้องพบกับมลพิษต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ สารพิษพวกนี้ เมื่อได้รับการสะสมเป็นระยะเวลานานอาจมีผลพวงต่อร่างกายในระยะยาวได้ ผลจากการศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยจากหน่วยงานอนามัยโลกบอกว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของมนุษย์นั้น ล้วนแล้วแต่มีมูลเหตุรากฐานเกี่ยวโยงจากการสัมผัสกับมลพิษที่สะสมเป็นเวลานานทั้งมวลส่งผลต่อในร่างกายโดยยิ่งไปกว่านั้นตับที่เป็นศูนย์กลางและก็กรองสารพิษของร่างกาย

Fast Food มีผลต่อตับ

เพียงพอมื้อเที่ยงต่างคนต่างรีบร้อนเนื่องจากว่าส่วนใหญ่บุคลากรออฟฟิศจะต้องรีบหามื้อกลางวันในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งมื้อของกินที่เหมาะสมกับในเวลานั้นจำนวนมากก็จะเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้ในทันทีแต่ว่าบางทีอาจส่งผลร้ายในระยะยาวได้ โดยยิ่งไปกว่านั้นตับ ด้วยเหตุว่าส่วนใหญ่อาหารจานด่วนนั้น ชอบมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูงเกินความต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งแม้มีไขมันพอกมากมายๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากมายเข้า ส่งผลเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันพอกตับ นำไปสู่ภาวการณ์ตับอักเสบ โรคตับแข็งแล้วก็ โรคมะเร็งตับ ท้ายที่สุด

ความเครียด มีผลต่อตับ

ตอนบ่ายมีเรื่องมีราวสะสมให้เกิดความเครียดอีกทั้งเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกนำมาซึ่งการทำให้ วิธีทำร้ายตับจากความตึงเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนรวมทั้งฮอร์โมนในกลุ่มความตึงเครียด ได้แก่ คอร์ติซอล ซึ่งส่งผลต่อการกระตุ้นเนื้อเยื่อของเซลล์ต่างๆในร่างกายจนถึงทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับและทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับการดำเนินงานของภูมิต้านทานลดต่ำลงทำให้เกิดความเสื่อมโทรมต่อตับได้ ให้โอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาทำร้ายร่างกายได้มากขึ้น นี่คือปัจจัยว่าเพราะอะไรพวกเราถึงล้มป่วยจากความเคร่งเครียดได้

แอลกอฮอล์ ยาสูบ ส่งผลต่อตับ

และก็ก่อนกลับไปอยู่บ้านก็มีการคบหาสมาคม ดื่มแอลกอฮอล์ ดูดบุหรี่ สนทนากับเพื่อนสถานที่ทำงานทั้งยังเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แต่ว่าหารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง เพราะว่าเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์รวมทั้งการสูบบุหรี่ ทั้งสารพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์และการดมควันจากบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระผสมปนเปรวมทั้ง สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนทำให้เซลล์ตับเกิดการความย่ำแย่ รวมทั้งแอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ มากถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม จึงไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีสภาวะอ้วนลงพุง!!!

นอนน้อย มีผลต่อตับ

รวมทั้งสุดท้ายกว่าจะได้นอนก็ยังนอนดึก พักผ่อนน้อย จำนวนมากแล้วหนุ่มสาวออฟฟิตทั้งหลายแหล่ก็ยังมิได้นอนนำมาซึ่งการทำให้กระบวนการทำงานกำจัดสารพิษในตับทำงานได้ไม่เต็มที่ส่งผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาทั้งตับอักเสบได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งตามทฤษฎีแล้วช่วง ห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง เป็นเวลาที่จะเกิดขั้นตอนกำจัดพิษในตับ ซึ่งควรจะจำต้องอยู่ในช่วงการนอนหลับสนิท

จากความประพฤติเพียงแต่ หนึ่งวันเราก็สร้างภาระหน้าที่ให้ตับเรียกว่าทุกระยะเวลาเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระหน้าที่ที่พวกเราเลี่ยงมิได้หรืออุตสาหะควบคุมแล้วก็ทำเป็นยาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวพวกเราก็เลยต้องที่จำเป็นต้องหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตับเราให้มีสุขภาพที่ดี ก่อนจะไม่เหลือตับให้ดูแล