สพฐ. ย้ำ หนังสือเรียนไข่ต้ม ต้องการสื่อ ความอดอยาก

[Prichas]

สพฐ. ย้ำ ตำราเรียนไข่ต้ม ต้องการสื่อ ความยากจน ไม่ว่าจะกินอะไร ก็แฮปปี้ได้ จนถึงพร้อมรับฟังทุกข้อคิดเห็น ชี้แก้ไขทุก 10 ปี

วันที่ 24 เม.ย.2566 นายอัมพร พินาสะ เลขาธิการคณะกรรมการการเรียนขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกรณีโลกออนไลน์วิจารณ์หนังสือเรียนหนังสือภาษาไทยพาที ระดับชั้น ป.5 ซึ่งมีเนื้อหาว่า กินไข่ต้มครึ่งส่วน เหยาะน้ำปลา หรือข้าวเปล่าคลุกน้ำผัดผักบุ้ง ทำให้ตัวละครในหนังสือมีความสุข ถือเป็นการเพียงพอ เห็นคุณค่าของชีวิตนั้น ว่า การจัดการทำความเข้าใจวิชาต่างๆจะมีแผนในการจัดการศึกษาอยู่ ซึ่งในแต่ละบทเรียนจะกำหนดเป้าประสงค์อยู่ว่าอยากได้สอนอะไรให้กับนักเรียนบ้าง ซึ่งการจัดการทำความเข้าใจ จะมีสื่อประกอบกิจการเรียนการสอน เพื่อเด็กนักเรียนเกิดการศึกษา ขึ้นอยู่กับครูว่าจะนำสื่อที่ใช้สำหรับประกอบการเรียนการสอนไหน มาสอนเด็กให้เด็กกำเนิดความรู้

โดย แบบเรียนภาษาพาที ที่เป็นหัวข้อนั้น เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ให้ครูใช้ประกอบการสอน เพื่อให้เด็กนำภาษาไปใช้แสดงอารมณ์ความรู้สึก นึกคิด หรือเห็นค่าของความสบายในชีวิตผ่านวรรณกรรมเพียงแค่นั้น คนเขียนจึงระบุตัวละครสมมติขึ้น โดยมีตัวละครที่มาจากครอบครัวร่ำรวย แต่หาความสุขไม่เจอ แล้วก็มีตัวละครที่เป็นลูกกำพร้า แต่สามารถเป็นสุขสำหรับการดำรงชีวิตด้วยการแบ่งปันกัน

ซึ่งในเรื่องของการรับประทานนั้น เรื่องราวมิได้สื่อเรื่องโภชนาการ แต่อยากสื่อว่าความยากแค้น ไม่ว่าจะกินอะไร อยู่ที่ไหน ก็สามารถสุขสบายได้ เมื่อผู้ที่อยู่ในครอบครัวรวยมามองเห็น จึงเข้าใจว่าความสุขในชีวิตมิได้อยู่ที่สถานที่กำเนิด หรือขึ้นอยู่กับที่อยู่ แต่ว่าอยู่ที่ความรู้ความเข้าใจและเอื้ออาทรต่อกัน

"บทเรียนดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อตอบปัญหาความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความสบายของชีวิต แน่ๆว่าที่ทำการคณะกรรมการการเรียนเบื้องต้น (สพฐ.) ไม่ทิ้งหลักโภชนาการ โดยได้กำหนดการเรียนการสอนหัวข้อนี้ไว้ภายในหมวดวิชาสุขศึกษา อีกทั้ง สพฐ.ได้ให้ความสำคัญกับโภชนาการของเด็กอย่างมาก มองเห็นได้จากการมีระบบระเบียบ Thai School Lunch ซึ่งคือระบบที่ช่วยทำให้สถานศึกษาสามารถจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพให้แก่นักเรียน

ดังนั้น บทเรียนดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว เป็นการเปรียบให้เด็กเกิดวิธีการคิด และก็ได้มีความเห็นว่าความสำราญที่แท้จริงอยู่ที่ไหน ดังนี้ ไม่ต้องการอ้างอิงคนใดกัน แต่รู้สึกว่าการเมืองขณะนี้ อยู่ระหว่างแนวทางการขายความนึกคิด วิธีขายนโยบาย ด้วยเหตุนี้ ส่วนไหนที่เป็นประโยชน์ สพฐ.ในฐานะผู้ปฏิบัติ ก็พร้อมที่จะฟังทุกความนึกคิด ส่วนไหนที่มีคุณประโยชน์จะยอมรับฟังแล้วก็ไปประยุกต์" นายอัมพร กล่าว

นักข่าวถามว่า มองว่าดราม่าที่เกิดขึ้นแพร่กระจายไปไกลหรือไม่ นายอัมพร กล่าวว่า ไม่เป็นห่วงว่าจะมีดราม่า เนื่องจากว่า สพฐ.อยู่ภาคการศึกษา ยินดีที่จะฟังทุกความเห็น เพราะว่าเห็นว่าทุกความนึกคิดมีคุณประโยชน์ ซึ่งตนคิดว่าทุกคนมีวิจารณญาณสำหรับเพื่อการพินิจพิจารณา อย่างไรก็ดี การจัดทำหนังสือหนึ่งเล่ม สพฐ.ไม่ได้จัดทำเพียงผู้เดียว ต้องผ่านกรรมวิธี ตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการทำ และก็ผ่านการตรวจสอบจากนักวิชาการอีกคนไม่ใช่น้อยจนถึงเห็นเหมือนกันว่าหนังสือที่ออกมาเป็นที่ยอมรับแล้ว ซึ่งตนรู้ดี เมื่อเวลาผ่านไป เหตุการณ์แปรไป สพฐ.เพียรพยายามจะทำหนังสือให้ดีขึ้น ล้ำสมัยเยอะขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนังสือภาษาพาทีมีหัวข้อดราม่าตั้งแต่ปี 2563 แล้วปีนี้เกิดดราม่าขึ้นอีก จะมีการปรับปรุงแก้ไขให้ล้ำยุคหรือไม่ นายอัมพร บอกว่า สพฐ.มีการปรับปรุงหนังสือเรียนทุกๆ10 ปี เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แล้วก็ในตอนนี้ สพฐ.ให้โอกาสให้สถานที่พิมพ์เสนอขอปรับปรุงสื่อการสอนของตัวเองได้ ซึ่งสื่อที่ผลิตใหม่เสนอใหม่หากมีหลักสูตรใหม่เกิดมา หลักสูตรเก่าก็ต้องไม่มีการใช้สอนอยู่แล้ว
สพฐ.
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13833/
Tags : แบบเรียนไข่ต้ม