Search

[dsmol19]

การมีเงินเก็บ ถือเป็นสิ่งที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยอย ากที่จะทำ แม้กระนั้นบางคนก็ไม่รู้จักว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน เพราะเวลามีรายได้เข้ามา ก็มีเรื่องมีราวจะต้องจ่ายออกไปตลอดเลย รู้ตัวอีกครั้งก็ไม่เหลือเงินให้เก็บซะแล้ว

ยิ่งช่วงวัยรุ่นที่อย ากจะเป็นคนมั่งมีอายุยังน้อย ก็คิดว่ามันย ากอย่างยิ่ง วันนี้พวกเราจึงมีวิธีการออมเงินกล้วยๆมาฝาก สำหรับใครที่อย ากจะมีเงินเก็บตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ก็เริ่มทำไปพร้อมกันได้เลย

1. ห่อมื้อกลางวันไปกินเอง

โดยธรรมดาโรงอ า ห า ร ของโรงเรียน หรือจะเป็นโรงอ า ห า ร สำหรับพนังงานในวัยทำงาน มักจะขายอ า ห า ร ในราคาที่ถูกกว่าธรรมดาอยู่แล้ว แต่ว่าลองคิดเล่นๆดูสิว่า หากเราห่อข้าวไปเปลืองที่สถานศึกษา หรือที่ทำงาน

จะช่วยให้เราประหยัดเงินได้วันละ 30-50 บาท หรือราว 900-1,500 บาทต่อเดือน ซึ่งถืว่าเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยิ่งหากนัดหมายกับเพื่อนพ้องๆมากินร่วมกัน ก็จะมีอาหารที่นานาประการ แบ่งปันกันได้อีกด้วย นอกนั้นยังช่วยทุ่นเวลาสำหรับในการออกไปรับประทานข้าวนอกได้อีกด้วย

2. วางมือจากของให้ โ ท ษ ต่อสุ ข ภ า พ

สำหรับคนไหนกันที่ชอบด้านการงานเลี้ยงคบหาสมาคมเป็นชีวิตจิตใจ ทราบไหมว่าสิ่งพวกนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เงินพวกเรา สู ญ เปล่าไปมากอย่างยิ่งจริงๆ แล้วก็นอกเหนือจากการที่จะเป็นตัวพาพวกเราไกลความฝันสำหรับเพื่อการคิดเงินเพื่ออนาคตแล้ว

ยังมี โ ท ษ ต่อสุ ข ภ า พ อีกด้วย หรือหากนานๆหนจะพบปะมิตรสหาย ก็น่าจะแบ่งเงินสำหรับส่วนนี้ไว้อย่ างกระจ่างแจ้ง และก็เลือกไปในงานที่สำคัญจริงๆจะดีกว่า

3. ยืมวัสดุอุปกรณ์แทนการซื้ อ

วัสดุอุปกรณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นหนังสือ คอมพิวเตอร์สำหรับในการปฏิบัติงาน หรือสิ่งของที่จะต้องใช้เฉพาะวิชา ยกตัวอย่างเช่น แล็บเคมี หรือเครื่องใช้ไม้สอยที่ต้องใช้ในวิชาเลขคณิต บางครั้งอาจจะทดลองถามรุ่นพี่ รวมทั้งยืมมาใช้ก่อน

บางอย่ างก็ซื้ อมาใช้เพียงแค่ครั้งเดียวก็มิได้ใช้อีก นอกจากจะประหยัดเงินพวกเราแล้ว คนอื่นก็จะได้ส่งต่อของให้ได้ใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย ดีมากยิ่งกว่าปล่อยทิ้งไว้เฉยๆแถมได้ร่องรอยการเลคเชอร์ของรุ่นพี่อีกต่างหาก

4. หักค่าขนมมาหยอดกระปุกทุกวี่ทุกวัน

เป็นวิธีคิดบัญชีที่ง่ายที่สุด แต่ก็ทำย ากที่สุดเช่นเดียวกัน ทดลองนำเงินค่าขนมที่ได้มาแบ่งออก 10-30% ของค่าจ้างรายเดือนเพื่อไว้ออม หรือใครกันแน่ได้เป็นรายวัน ก็บางครั้งอาจจะหยอดเป็นวัน สัก 20-50 บาท สุดแท้แต่คนใดได้มากได้น้อย เก็บวันละนิด ก็เป็นจุดเริ่มแรกของการเก็บออมที่ดีมากๆ

5. ดื่มแม้กระนั้นน้ำกิน

น้ำเปล่าเป็นน้ำที่มีสาระต่อร่ า ง ก า ย ของเราที่สุดแล้ว แล้วก็มีราคาที่ถูกกว่าน้ำหวาน น้ำอัดลม ชา กาแฟ หรือน้ำชนิดอื่นๆอีกด้วย และก็ พวกน้ำหวานพวกนี้ยิ่งกินมาก ก็จะยิ่งมีแต่จะ อ้ ว น เพราะว่ามีน้ำตาลสูงมาก แถมยังส่งผลให้พวกเราคิดบัญชีได้ลดน้อยลงด้วย

6. เปิดท้ายขายสินค้ามือสอง

ตอนวัยรุ่นพวกเรามักมีเสื้อผ้ามากมายมากไม่น้อยเลยทีเดียว บางชุดใส่ครั้งเดียวก็เบื่อกันแล้ว แทนที่จะห้อยไว้ให้เกลื่อนกลาดตู้เฉยๆลองหาเปิดด้านหลังแล้วเอาเสื้อผ้าที่ไม่ใส่แล้วไปขายดูไหม

หรือจะโพสต์ลงโซเชียลขายสินค้ามืองสองก็ยังได้ และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าที่อีกด้วยวิธีแบบนี้ นอกเหนือจากที่จะเป็นการจัดระเบียบเสื้อผ้าในตู้พวกเราแล้ว ยังเป็นการคิดบัญชีเข้ากระเป๋าเยอะขึ้นอีกด้วย

7. เก็บเงินค่าเน็ตโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้ ใช้ Wifi สาธารณะดียิ่งกว่า

แม้ว่าจะมีโปรเน็ตที่ดูเหมือนประทับใจ แม้กระนั้นปัจจุบันไปไหนก็มี Wifi สาธารณะให้ใช้กันทั่วอยู่แล้ว ยิ่งอยู่ในรั้วมหาวิทย าลัยหรือแม้แต่สถานศึกษาสมัยปัจจุบันนี้มี Wifi ฟรีให้ใช้ตลอด บางทีอาจจะไม่สบายบ้ างในบางครั้ง แต่ว่าวางใจว่าวิธีนี้เป็นการลดค่าใช้จ่ายได้ดีมากๆเลยเชียว แล้วก็จะมีเงินสำหรับเก็บออมมากขึ้นอย่ างแน่นอน

8. ช้อปปิ้งได้ แต่ว่าอย่ าเผลอใจกับสิ่ง ไ ร้ ส า ร ะ

แน่ๆละว่าวัยรุ่นเป็นตอนๆที่ถูกใจการกิน ท่องเที่ยว เล่นเป็นปกติ แต่ว่าถ้าหากมองดูถึงอนาคตและก็ฝึกนิสัยใช้จ่ายให้เป็นประจำตัวไว้สักนิด เก็บออมเงินไว้ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อที่ในอนาคตจะได้เป็นเศรษฐีน้อยก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม หากรู้จักยับยั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนนี้

9. ซื้ อสลากออมเงิน

วิธีการแบบนี้ถือเป็นความคิดที่ดีอย่างยิ่งจริงๆ เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นการเก็บออมเงินไปในตัวแล้ว พวกเรายังมีโอกาสสำหรับการถูกรางวัลเป็นของแถมอีกด้วย เสมือนได้ลุ้นสลากกินแบ่งไปในตัว

รวมทั้งข้อดีอีกอย่ างคือ สลากออมเงินจะมีการตารางฝากเป็นระยะย าว 1-3 ปี ก็เป็นการบังคับพวกเราไม่ให้ใช้เงินส่วนนี้ในช่วงถือสลากไปในตัวอีกด้วย กล่าวได้ว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม รวมทั้งถือว่าเป็นการเริ่มการลงทุนที่ดีสำหรับอนาคต


สำหรับวิธีการออมเงินที่เสนอแนะไปนั้น ถ้าหากผู้ใดทำได้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของคนมั่งมีอายุยังน้อยอย่ างแน่ๆ แล้วก็ขอฝากข้อคิดเตือนใจไว้สำหรับทุกคนด้วยนะคะ
เก็บเงินไม่อยู่
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13463/