5 นิสัยห่วยๆอย่าทำในสถานที่สำหรับทำงาน..ใครหลายๆคนไม่รู้ตัว

[dsmol19]

มากมายหลากหลายองค์กรประมวลผลงานพนักงานกันเป็นรายปี แต่ว่าก็มีบางที่จัดกันปีละ 2 ครั้ง

เพื่อตรวจเช็ครูปแบบการทำงานของบุคลากร รวมถึงความคิด


ซึ่งมิได้วัดออกมาเป็นระดับคะแนน หรือความพอใจ จากการตอบคำถาม "ถูก" หรือ "ผิด" ที่สำคัญ


สิ่งที่ได้กล่าวออกไปในระหว่างการคาดการณ์อาจจะประดิษฐ์ หรือ ทำ ล า ย หน้าที่การงานได้เลยทีเดียว

แต่ว่าบางบริษัทคิดว่าการวัดผลงานเทศการที่จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปีเกิดเรื่องล้าสมัย

เพราะว่านายจ้างควรประเมินเรื่องอื่นๆอีกทั้งระดับความสามารถในการดำเนินการ

การบริการลูกค้า ทีมเวิร์ก ไปจนถึงทัศนคติ ทำให้หลากหลายองค์กรใช้ระบบการให้คำปรึกษาย้อนกลับมา

หรือฟีดแบ็กรวมถึงระบบการสอนงาน หรือโค้ชชิ่งแทน แม้กระนั้นไม่ว่าองค์กรจะใช้การประเมินแบบใด

สิ่งสำคัญคือบุคลากรจะต้องสามารถสื่อ ส า ร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


และมี 5 ประโยคที่ไม่สมควรเอ่ยออกมา เพราะเหตุว่าสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดผลลบมากยิ่งกว่า


ซึ่ง cheatsheet.com เขียนถึงเรื่องนี้ไว้อย่างน่าดึงดูด

"นี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน"

ประโยคนี้นอกเหนือจากการที่จะชี้ให้เห็นว่า ผู้พูดจำต้องปรับแต่งมรรยาทไม่ให้พูดโพล่งออกมาแล้ว

ควรจดจำไว้เหตุว่า การกำหนดหน้าที่งาน หรือ Job Description

ไม่ได้ครอบคลุมหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำทั้งปวง 100% แถมยังต้องเปลี่ยนแปลงตามสภาพธุรกิจอีกด้วย

นายจ้างติดอกติดใจพนักงานที่มีความยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับงานหลายๆอย่าง

ด้วยทัศนคติเชิงบวก แม้กระนั้นถ้าเกิดปรารถนาสะท้อนถึงสิ่งที่จำเป็นที่มากเกินความจำเป็นของนาย

ก็สามารถเลือกใช้ประโยคอื่นๆแทน ได้แก่ "งานเดิมที่ระบุเส้น ต า ย เอาไว้

ทำให้ยังไม่มีจังหวะปฏิบัติหน้าที่เพิ่มอีก" หรือชี้แจงว่า

คุณไม่ควรรับผิดชอบงานส่วนนี้ เพราะว่ามีคนอื่นๆที่เหมาะมากกว่า

"คุณคาดหมายจากฉันมากเกินไป"

แน่นอนว่า นายจ้างย่อมมุ่งหวังหลายเรื่อง

ซึ่งอาจส่งผลให้พนักงานมีความรู้สึกว่าดำเนินการเกินค่าจ้างที่ได้รับ

แม้กระนั้นการป้องกันตัวเองมากเกินความจำเป็นก็บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุด


เพราะฉะนั้น การงดเว้นทนและก็ควบคุมสติเป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอะไร

เนื่องจากการแสดงอารมณ์ออกมาอาจไม่ได้ทำให้อะไรดียิ่งขึ้น

"ฉันทำไม่ได้"

การพูดว่า "ทำไม่ได้" เป็นความจำกัด ซึ่งเว้นแต่ผู้พูดจะนิยามคิดของตน

เกี่ยวกับสิ่งที่เราเองสามารถทำได้แล้ว ยังให้ความหมายคิดของผู้อื่น

รวมทั้งผู้ว่าจ้างเกี่ยวกับความสามารถของผู้พูดด้วย

การพูดประโยคนี้เท่ากับบอกนายจ้างว่า คุณไม่มีทักษะที่จะดำเนินงานให้สำเร็จได้

รวมทั้งแม้ตอบสั้นๆก็บางทีอาจแปลได้ว่า คุณไม่พากเพียรจะเรียนรู้ ซึ่งจะส่งผลเสียเข้าไปอีก

ด้วยเหตุดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องเลี่ยงไปใช้คำพูดอื่นๆได้แก่ "พวกเราจะทดลองทำยังไงดี"

หรือ "นี่เป็นข้อเสนอแนะที่ดี มอบโอกาสฉันได้มีส่วนร่วมที่จะทำให้เสร็จด้วยคน"

ซึ่งจะเปิดช่องให้สามารถหาแผนที่เหมาะสมกับตัวเองได้

"ขอบคุณมากที่มองเห็นท้ายที่สุด"

การได้รับคำชื่นชมสำหรับการให้คะแนนงานนับเป็นความเสร็จในหน้าที่การงานขั้นเล็กๆ

แต่ก็ไม่ควรหลงระเริงกับคำชมเชยนั้น ถ้าเกิดไม่สามารถที่จะจัดการก้าวหน้าพอเพียง ยกตัวอย่างเช่น การกล่าวคำประเภทว่า

"ขอบคุณที่มองเห็นสุดท้าย" จะมีผลให้บรรยากาศกลับอึดอัด

แล้วก็อาจจะก่อให้ผู้ว่าจ้างไม่สรรเสริญคุณอีกในอนาคต เพียงแค่ขอบคุณ

หรืออธิบายถึงความเพียรพยายามที่นานกว่าจะสำเร็จก็คงจะพอเพียงแล้ว

"ไม่ได้ขี้เกียจนะ ก็แค่ไม่แคร์เพียงแค่นั้น"

นี่เป็นประโยคเด็ดจากภาพยนตร์เรื่อง "ที่ทำงาน สเปซ" แม้กระนั้นถ้านายไม่ได้รู้จัก

สถานการณ์ข้างหลังกล่าวประโยคนี้ก็จะเชิญอึดอัด โดยเฉพาะเมื่อนายมองหน้าเพื่อ

ให้อธิบายถึงคำบอกเล่าดังที่ได้กล่าวมาแล้วที่แสดงถึงความรู้สึกว่าไม่พอใจ

รู้กลเม็ด 5 ประโยคที่ห้ามพูดแล้ว ก็ทุ่มเททำงานให้เต็มที่

เวลาวัดผลงานจะได้เปิดใจกับหัวหน้ากันแบบพอใจ

เผื่อได้ปรับเพิ่มเงินเดือน แถมด้วยตำแหน่งใหม่ๆก็ได้ ผู้ใดกันจะไปรู้!
พนักงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13385/
คำค้นหา : มารยาท