Search

[Fern751]

1. เริ่มประโยค ด้วยความเป็นกันเอง

บางครั้งอาจจะเป็นการถามส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความประสงค์ดีและใส่ใจในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำสุภาพ สมควร รวมทั้งนุ่มนวลด้วยนะคะ "เป็นยังไงบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา

ไปเที่ยวไหนมาบ้ า งขา" การใช้ความเป็นกันเองจะมีผลให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่ อ น คลายและเป็นมิตรด้วยนะคะ อีกหัวข้อคืออวัจนะภาษาค่ะ กิริยาท่าทางการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก


โกรธหว่างดวงตาเราหรือการสัมผัสบางสิ่งบางอย่างดังเช่นว่า การสัมผัสไหล่เพื่อให้กำลังใจ การจับมือเพื่อปลอบประโลมปะโลม ตบมือให้เพื่อกำลังใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ท่านและเค้าเข้าถึงกันได้ง่ายเข้าไปใหญ่

2. ฝึกหัดกล่าว คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"

เพราะเหตุว่าคำว่า"ไม่" มันพูดให้ดูดีย า ก กล่าวให้คำจำกัดความเป็นบวกได้ย า กมาก คำบางคำเป็นคำที่มักประยุกต์ใช้ทำร้ า ย จิตใจคนอื่นๆ แสดงถึงความไม่ถูกใจในตัวเขาหรืองานของเขา หลายคนใช้คำนี้กระทั่งติดเป็นนิสัยซึ่ง

ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะค่ะ อย า กให้ทดลองเปลี่ยนวิธีการใช้มันมองนะคะ ดังเช่นว่า "ทดลองทำอย่างนี้ดูดีไหม" "แบบนี้ดีแล้วนะ ถ้าหากเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณมีความคิดว่าจะเป็นยังไงขา" แสดงว่า พวกเรามิได้ไม่ยอมรับความคิดของอีกข้างแต่ลองแนะนำเพิ่มเติมอีกเสมอเหมือนการแนะนำเขา

3. ดูให้ได้ 3 มุม

การพูดเป็นดั่งกระบี่ 2 คม ไม่ทิ่มแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"อย่างเดียวบางทีอาจน้อยเกินไป คุณจำต้องฝึกขั้นตอนการคิดอย่างมีสติสัมปชัญญะและพินิจพิจารณาไปพร้อมเพียงกันด้วยค่ะ

มองว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนอย่างไร เรื่องไหนควรจะกล่าว เรื่องไหนไม่สมควรพูด แต่ว่าที่สำคัญไปมากกว่านั้น ทุกคราวถ้าเกิดจะมีการต่อว่า ตัดเตือน ปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องของงาน ให้ลองดูให้ได้ 3 มุม


1. มุมของเรา : พวกเราคิดว่าอย่างไร ในตำแหน่ง หน้าที่เรา เราควรมองแบบไหน จัดการกับปัญหาเช่นไร


2. มุมของเค้า : หากพวกเราเป็นเค้าพวกเราจะทำยังไง ถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดนแบบนี้เช่นเดียวกันเราจะรู้สึกยังไง แล้วเราจะไขปัญหานั้นแบบไหน

3. มุมของบุคคลที่3 หรือคนอื่นๆที่ดู 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คืออะไร เล็ก ใหญ่ขนาดไหน ขนาดที่ควรต้องทะเลาะกันเลยแบบงั้นหรือ เถียงด้วยประเด็นนี้เหตุผลมาจากอะไร ฯลฯ

ถ้าหากคุณมองให้ได้ครบทุกมุม คุณจะมองเห็นทุกด้านของความคิด เข้าใจเค้า เข้าใจพวกเรา เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดมากขึ้น

4. อย่าว่ากล่าวผู้ใดกัน ต่อหน้าคนอื่น

ไม่มีใครชอบการเช็ดกตำหนิจ้ะ พวกเราก็เช่นกันใช่ไหมล่ะขา ยิ่งโดนดุต่อหน้าต่อตาคนอื่นด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ โกรธแค้นแสนสาหัสเสียอย่างมากจริงๆการด่าทอคนใดต่อหน้าต่อตาบุคคลอื่นมันเป็นการตั้งอกตั้งใจฉีกหน้าเค้าให้พังยับจำพวกที่เรียกว่า

คนที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปจนวันต า ย อย่างยิ่งจริงๆ และความเกี่ยวพันระหว่างคุณแล้วก็เค้าจะเสียไปในทันที ท้ายที่สุดแล้วไม่มีข้างไหนชนะ ไม่มีผู้ใดได้ประโยชน์จากวิธีการทำอย่างงี้ค่ะ ด้วยเหตุนี้แล้วถ้าไม่ใช่เรื่องที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อส่วนรวมชี้แนะว่าไม่ควรกระทำอย่างยิ่งจ้ะ

5. มีนายช่างฝีมือดู

ดูเมื่อเค้าประพฤติดี ดำเนินการได้ดี ช่วยเหลือคนอื่น ส่งผลงานที่ดี ทำตัวดี คุณก็ควรชมเค้าด้วยใจจริงที่ประสงค์ดี คำพูด คำจา น้ำเสียงที่ดี ใบหน้าปลาบปลื้มพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย เนื่องจากสิ่งกลุ่มนี้มีผลต่อความรู้สึกมากมายนะคะ ผู้ที่ถูกดูเค้าจะเสมือนได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงกระตุ้น มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดีมากๆขึ้นไป

การมีศิลปการดูที่ดีนั้น ไม่สำคัญจำเป็นที่จะต้องชมที่ผลงานของเค้าเพียงแค่นั้นค่ะ อย า กให้ทดลองดูความน่ารักน่าเอ็นดูของเค้า ความมีน้ำใจ ความเอาใจใส่ที่เค้ามีต่อคุณ ดูเครื่องแต่งกาย


ชมพาหนะ ดูกระเป๋าหิ้วเค้า หรือสิ่งบริเวณตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสุขให้เค้าได้แล้ว และก็เค้าจะเกิดภาคภูมิใจกำเนิดความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วเขาจะรักพวกเรา หากแม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธเราค่ะ ทดลองดูนะคะ

6. อย่ารั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง

บางบุคคลหลงผิดว่าการบอก"รั ก ษ า ความมีน้ำใจ"เป็นการบอกในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อให้เค้ารู้สึกดี และก็บางครั้งคนเรา ก็ชอบที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตน)มากกว่ารั ก ษ า น้ำใ

จึงเลือกพูดไปในสิ่งที่มันไม่จริงเพราะเหตุว่ากลัวว่าถ้าพวกเราพูดความจริงไป"เราจะดูไม่ดี และก็บางทีก็รั ก ษ า ความมีน้ำใจ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งอีกทั้งการพูดอะไรที่มันไม่จริงและทั้งยังการไม่บอก

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นราวกับการสนับสนุนความประพฤติปฏิบัติของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงละเลิงว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกก็ดีแล้ว

"คิดทุกคำก่อนจะบอก แม้กระนั้นไม่จำเป็นต้องพูด ทุกคำที่เราคิด" น้อยเกินไปค่ะ ต้องเลือกใช้คำที่จะพูดให้เหมาะสมด้วย

7. เจอปัญหาที่ต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตัดสินใจ" อะไรบางอย่างแล้วเรายังไม่มั่นใจ ตอบอย่างไรให้ดูดี

ถ้าควรจะมีการตอบปัญหาที่เป็นปริศนาปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรจะหรือเปล่าควรจะ ดีไหมดี คุณคิดยังไง ต้องทำอย่างไร เจอคำถามเหล่านี้แล้วเราไม่ทราบไหมแน่ใจในคำตอบ

สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือถ้าหากเราไม่ตอบ พวกเราก็ดูแ ย่ ถ้าเราตอบแล้วตอบผิด ก็มองแ ย่ ไม่แพ้กัน ด้วยเหตุนี้ลู่ทางของเราให้เราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่นี้ค่ะ


⁃ คำตอบของคุณจึงควรไม่ไปอ้างอิงคนไหน ไม่เป็นการว่ากล่าวคนใด


⁃ ใช้เหตุส่งผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบมากเพิ่มขึ้น ตอบช้าๆได้ค่ะ ช่างเถอะ ค่อยๆใช้ความคิด ตอบอย่างมีสติสัมปชัญญะ เจาะจงถึงเหตุผลแหล่งที่มาให้เด่นชัด

⁃ คุณสามารถอธิบายได้นะคะในบางเรื่อง ว่าหัวข้อนี้"ไม่เกี่ยวกับพวกเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ดิฉันอย า กช่วยมากมายๆเลยจ๊า เลยอย า กเสนอแนะให้ทดลองปรึกษาทาง... จะได้คำตอบที่แน่นอนกว่านะขา" นี่คือการไม่ยอมรับแบบรั ก ษ า ความมีน้ำใจ

⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ ตรึกตรองมุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดยังไงบ้ า งค่ะ" แต่ว่ากรณีนี้เราควรมีการเพิ่มเติมความเห็นของพวกเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้รู้สึกได้ว่าพวกเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่

⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ดิฉันทราบแต่เพียงว่า... ส่วนที่เพิ่มเติมอีกจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"

"วิธีกล่าวยังไงให้คนรักนี้" ข้าพระพุทธเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกคนนะคะ และก็ขอขอบพระคุณจากหัวใจที่อ่ า น มันจนถึงบรรทัดนี้ แม้กระนั้นสิ่งนี้น่าจะเป็นได้เพียงข้อแนะนำสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณแค่นั้น ถ้าหากคุณไม่ลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/