(https://res.cloudinary.com/dobontcll/image/upload/c_scale,w_600/v1686141776/guest-post/%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%B9_1_mj7vra.jpg)
พื้นไม้ลามิเนต มีส่วนประกอบสำคัญสี่ส่วน1. ชั้นเคลือบผิวหน้าพื้นไม้ลามิเนต (Overlaying film) เป็นชั้นป้องกันรอยขีดข่วนผิวหน้า ค่ามาตรฐานยุโรปเรียก AC-Abrasing Content คือค่าความคงทนต่อการขัดสีของผิวหน้า มีค่าตั้งแต่ AC1-AC5 (ผ่านการทดสอบความคงทนการขัดสี 1,000-5,000 รอบ) มาตรฐานพื้นไม้ลามิเนตที่ใช้ทั่วไปคือ AC3 เหมาะกับการใช้งานบ้านพักอาศัยและสำนักงาน
2. ชั้นแสดงลายไม้ (Decorative Paper) เป็นชั้นที่แสดงความสวยงามของพื้นไม้ลามิเนต ลายไม้แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันขึ้นกับการออกแบบ
3. ตัวแผ่นพื้นไม้ลามิเนต ทำจากผงไม้มาขึ้นรูปแบบอัดแน่นสูง (High Density Fiberboard) เป็นชั้นรองรับน้ำหนักและแรงกระแทก
4. ชั้นรองใต้แผ่น (Balancing Film) ช่วยป้องกันความชื้น และเพิ่มแรงดึงผิวด้านล่างให้เท่ากับด้านบน ให้แผ่นไม้ลามิเนตคงรูปไม่โก่งตัว
ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต1. พื้นไม้ลามิเนตมีลายพื้นไม้สวยงาม หลากหลายเลือกออกแบบลายไม้ของพื้นไม้ให้เข้ากับการตกแต่งได้ทุกสไตล์ของห้องหรือบ้านของผู้อยู่อาศัย
2. พื้นไม้ลามิเนตมีราคาเหมาะสม (ราคาถูกที่สุดในกลุ่มพื้นไม้) ราคาพื้นไม้ลามิเนตรวมติดตั้งปัจจุบันอยู่ที่ 400-650 บาท ต่อตารางเมตร
3. โครงสร้างพื้นไม้ (HDF) มีคุณสมบัติในการรองรับแรงกระแทกได้ดี
4. สามารถติดตั้งง่าย ปูทับบนพื้นชั้นล่างที่เป็นพื้นปูนใหม่ หรือปูทับบนพื้นกระเบื้องเดิมและพื้นไม้ปาร์เก้เดิมได้ โดยไม่ต้องทำการรื้อพื้นเดิมออก การปูพื้นไม้ลามิเนตปูด้วยการรองโฟมปรับระดับโดยไม่ต้องติดกาว
ข้อเสียและข้อควรระว้งของพื้นไม้ลามิเนตพื้นไม้ลามิเนตทำความสะอาดด้วยไม้ถูพื้นได้ แต่ไม่ทนต่อความชื้นและน้ำที่มาสัมผัสเป็นระยะเวลานาน เช่น ในกรณีฝนตกเข้าทางหน้าต่างหรือน้ำจากห้องน้ำไหลท่วมมาโดนพื้น ทำให้พื้นไม้ลามิเนตขึ้นสันตรงรอยต่อแผ่น (สามารถแก้ไขโดยการรื้อเปลี่ยนแผ่นพื้นลามิเนตที่ขึ้นสันเฉพาะแผ่นได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนทั้งผืน)
(https://res.cloudinary.com/dobontcll/image/upload/c_scale,w_600/v1686141776/guest-post/%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3_6_q2r6ej.jpg)
4 ค่ามาตรฐานพื้นไม้ลามิเนต (https://www.floordweb.com/laminate-flooring) ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
1. ความหนาของพื้นไม้ลามิเนต มี 2 ความหนามาตรฐาน 8 mm และ 12 mm พื้นไม้ลามิเนตความหนา 8 mm เป็นรุ่นที่นิยมสำหรับงานพื้นชั้นสองบ้านจัดสรรและคอนโดเพราะมีราคาถูก รุ่นความหนา 12 mm มีราคาสูงกว่ารุ่น 8 mm (70-120 บาทต่อตร.ม.) โดยรุ่น 12 mm เหมาะกับงานบ้านพักอาศัย เมื่อสัมผัสจะให้ความรู้สึกที่แน่นมากกว่ารุ่น 8 mm
2. รอยต่อแผ่นพื้นไม้ลามิเนต มี 2 รูปแบบ1. รอยต่อแผ่นแบบเรียบ พื้นไม้ลามิเนตโดยส่วนใหญ่เป็นแบบรอยต่อเรียบ ผิวหน้าพื้นไม้หลังการติดตั้งมีความเรียบชิดติดกันทั้งผืน
2. รอยต่อแผ่นแบบร่องวี (V-Groove) รอยต่อแผ่น
พื้นไม้ลามิเนตแบบร่องวีเป็นการผลิตให้รอยต่อของแผ่นมีร่องเล็กระหว่างรอยต่อแผ่น (Micro-V) เวลามองและสัมผัสพื้นไมัลามิเนตร่องวี ให้ความรู้สึกรอยต่อแผ่นเหมือนปูแผ่นไม้จริง ร่องวีของรอยต่อแผ่นผลิตขึ้นรูปให้มีเฉพาะพื้นผิวด้านบน รอยต่อตัวแผ่นส่วนโครงสร้างยึดติดกันแน่นมีความแข็งแรง
3. ผิวหน้าสัมผัสพื้นไม้ลามิเนต มี 2 แบบ[list=1]
- ผิวหน้าเรียบ (Woodgrain) พื้นไม้ลามิเนตส่วนใหญ่เป็นแบบผิวหน้าเรียบ
- ผิวหน้าเรียบมีสัมผัส (Embross) จะเป็นรุ่นสั่งผลิตเฉพาะโครงการ
***พื้นไม้ลามิเนตรุ่นร่องวี (V-Groove) นิยมผลิตผิวหน้าแบบมีสัมผัส (Emboss) เพื่อให้แผ่นไม้ลามิเนตมีลักษณะเหมือนไม้จริงทั้งผิวหน้าและรอยต่อ
4. ค่าการกันรอยขีดข่วน AC-Abrasing Content คือค่าความคงทนผิวหน้าด้วยการทดสอบขัดสีผิวหน้า (นับค่าการทดสอบเป็นจำนวนรอบ) AC1-5= ผ่านการทดสอบ 1,000-5,000 รอบ
- รุ่นผลิตภายในประเทศไทย มีค่ามาตรฐานที่ AC1-AC3
- รุ่นผลิตในประเทศยุโรป มีค่ามาตรฐานที่ AC3-AC5